หมวดที่ 1
ชื่อ เครื่องหมาย และที่ตั้งสำนักงาน
- สมาคมนี้มีชื่อว่า "สมาคมชาวปักษ์ใต้ขอนแก่น"
- สมาคมนี้มีเครื่องหมายเป็นรูปพระ บรมธาตุที่เปล่งรัศมีเป็น 14 แฉก มีเกาะและทะเลอยู่ภายในกรอบวงกลม ซึ่งมีลูกโซ่เกี่ยวโยงกันโดยรอบ
และในวงกลมรอบนอกตอนบนมีอักษรว่า "สมาคมชาวปักษ์ใต้" ส่วนตอนล่างมีอักษรว่า "ขอนแก่น"
- สำนักงานของสมาคมตั้งอยู่ที่ บ้านเลขที่ 100 ถนนประชาสโมสร ซอย 15 ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น 40000
หมวดที่ 2
วัตถุประสงค์
- สมาคมมีวัตถุประสงค์ดังนี้
(1) ส่งเสริมและประสานความสามัคคีในหมู่คณะชาวปักษ์ใต้ในจังหวัดขอนแก่น และบุคคลอื่นทั่วไป
(2) ส่งเสริมและเผยแพร่ขนบธรรมเนียมประเพณี และวัฒนธรรมของชาวปักษ์ใต้
(3) ประสานกับส่วนราชการ หน่วยงานเอกชน มูลนิธิหรือสมาคมอื่น ในการบำเพ็ญสาธารณกุศลต่างๆ
หมวดที่ 3
สมาชิก
- สมาชิกของสมาคมมี 2 ประเภท คือ
ก. สมาชิกสามัญ ได้แก่บุคคลที่
(1) เป็นชาวปักษ์ใต้โดยกำเนิด หรือมีบิดา มารดา หรือคู่สมรสเป็นชาวปักษ์ใต้ หรือผู้ที่เคยมีภูมิลำเนาอยู่ในดินแดนปักษ์ใต้ติดต่อกันไม่น้อยกว่า 3 ปี และ
(2) เป็นผู้บรรลุนิติภาวะและมีความประพฤติดี
(3) เป็นผู้ที่ไม่มีโรคติดต่ออันเป็นที่รังเกียจต่อสังคม
(4) เป็นผู้ที่ไม่เคยออกจากสมาชิกของสมาคมหรือสโมสรอื่นๆ ในกรณีทำความเสียหายแก่สมาคมหรือสโมสรนั้นๆ
(5) ไม่เป็นบุคคลที่มีหนี้สินล้นพ้นตัว
ข. สมาชิกกิตติมศักดิ์ ได้แก่บุคคลที่ได้รับเชิญโดยมติของคณะกรรมการบริหารสมาคม
- การเป็นสมาชิกสามัญ ให้ผู้ประสงค์จะสมัครเป็นสมาชิกสามัญตามแบบของสมาคมต่อเลขาธิการ โดยมีสมาชิกสามัญรับรองหนึ่งคน เมื่อเลขาธิการพิจารณาเห็นว่ามีคุณสมบัติครบถ้วนแล้วก็ให้รับเป็นสมาชิก และรับชำระเงินค่าบำรุงสมาคม แล้วให้นำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหารในการประชุมคราวต่อไป เมื่อได้รับการอนุมัติแล้วให้แจ้งสมาชิกภาพแก่ผู้สมัครทราบ และให้เริ่มนับสมาชิกภาพตั้งแต่วันที่ได้รับอนุมัติ
- สมาชิกภาพของสมาชิกกิตติมศักดิ์ ให้เริ่มนับตั้งแต่วันที่เลขาธิการได้รับหนังสือตอบรับจากผู้ที่ได้รับเชิญ
- ค่าบำรุงสมาคม
(1) สมาชิกสามัญตลอดชีพ จ่ายครั้งเดียวคนละ 500 บาท (ห้าร้อยบาทถ้วน)
(2) สมาชิกกิตติมศักดิ์ ไม่ต้องเสียค่าบำรุงแต่อย่างใดทั้งสิ้น
หมวดที่ 4
สิทธิและหน้าที่ของสมาชิก
- มีสิทธิในการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารภายใต้ข้อบังคับว่าด้วยการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารและ เสนอแนะเกี่ยวกับกิจการของสมาคม
- มีสิทธิในการสอบถามหรือขอตรวจสอบความเป็น อยู่แห่งกิจการและทรัพย์สินของสมาคม ตลอดจนขอดูเอกสาร และหลักฐานการบัญชี ณ ที่ทำการของสมาคมในเวลาอันสมควร
โดยยื่นเป็นหนังสือต่อนายกสมาคม
- มีสิทธิในการใช้สถานที่ของสมาคม โดยยื่นหนังสือและได้รับอนุญาตจากนายกสมาคม หรือผู้ทำการแทน
- มีสิทธิในการประดับเครื่องหมายของสมาคม
- มีหน้าที่ช่วยกันรับผิดชอบและป้องกันไม่ให้ความเสียหายเกิดขึ้นต่อสมาคม
- เมื่อย้ายถิ่นที่อยู่ ต้องแจ้งให้นายทะเบียนทราบเป็นหนังสือ
หมวดที่ 5
การพ้นจากสมาชิกภาพ
- สมาชิกพ้นจากสมาชิกเมื่อ
(1) ตาย
(2) ลาออก โดยยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการบริหารสมาคม
(3) คณะกรรมการบริหารสมาคมมีมติให้ออก
(4) สมาคมสิ้นสภาพลง
หมวดที่ 6
คณะกรรมการบริหารสมาคมและหน้าที่รับผิดชอบ
- คณะกรรมการบริหารสมาคมประกอบด้วย นายกสมาคม, อุปนายก, เลขาธิการ, เหรัญญิก, นายทะเบียน, ประชาสัมพันธ์ และกรรมการอื่นๆ มีจำนวนไม่น้อยกว่า 15 คน แต่ไม่เกิน 30 คน
ตำแหน่งนายกสมาคมให้มีการสรรหาจากสมาชิกที่เคยดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารของสมาคมมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี ตามระเบียบการสรรหานายกของสมาคม และต้องได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมใหญ่ ให้นายกสมาคมดำรงตำแหน่งได้ไม่เกิน 2 วาระติดต่อกัน
กรรมการบริหารตำแหน่งอื่นๆ ให้นายกสมาคมคนใหม่เลือกสรรจากสมาชิกสามัญ และนำเสนอนายกสมาคมคนปัจจุบันแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ทั้งชุดให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน และนำไปจดทะเบียนต่อทางราชการ
- คณะกรรมการบริหารสมาคมมีอำนาจบริหารกิจการของสมาคมให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ และมีอำนาจออกระเบียบหรือประกาศอื่นใดที่ไม่ขัดหรือแย้งกับวัตถุประสงค์ของสมาคม หรือข้อบังคับนี้ เพื่อประโยชน์ในการบริหารสมาคมให้เป็นไปโดยสะดวก รวดเร็ว และเรียบร้อย
- คณะกรรมการบริหารสมาคม ดำรงตำแหน่งคราวละ 3 ปี
- เมื่อกรรมการบริหารสมาคม ตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งว่างลงก่อนครบกำหนดตามวาระ
(1) ตำแหน่งนายกสมาคมว่างลง ให้อุปนายกคนที่ 1 ขึ้นดำรงตำแหน่งต่อไป โดยมีอายุเท่ากับวาระของผู้ที่ตนแทน
(2) ตำแหน่งอื่นๆ ว่างลง ให้เป็นอำนาจของคณะกรรมการบริหารเป็นผู้พิจารณาแต่งตั้งจากสมาชิกสามัญ โดยมีอายุเท่าวาระของผู้ที่ตนแทน
- หน้าที่ของคณะกรรมการบริหารสมาคม
(1) นายกสมาคม มีหน้าที่ควบคุมกิจการของสมาคมให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ภายใต้ระเบียบข้อบังคับ และเป็นผู้แทนของสมาคมในกิจการที่เกี่ยวกับบุคคลภายนอก
(2) อุปนายก มีหน้าที่ทำการแทนนายกสมาคมเมื่อนายกสมาคมไม่อยู่ หรือไม่สามารถทำการได้รวมทั้งงานอื่นๆ ที่นายกสมาคมมอบหมาย
(3) เลขาธิการ มีหน้าที่ในการดำเนินงานหรือกิจอื่นๆ ของสมาคมที่มิได้อยู่ในอำนาจหรือหน้าที่ของคณะกรรมการอื่นโดยเฉพาะ ตลอดทั้งนัดการประชุมกรรมการบริหาร การประชุมใหญ่ บันทึกและรวบรวมรายงานการประชุม
(4) เหรัญญิก มีหน้าที่รับ-จ่าย รักษาเงิน ทำบัญชี และเก็บรักษาเอกสารเกี่ยวกับการเงิน
(5) นายทะเบียน มีหน้าที่จัดทำและเก็บรักษาทะเบียนสมาชิกและเอกสารต่างๆ เกี่ยวกับการเข้าเป็นสมาชิก ตลอดถึงจัดให้มีการลงทะเบียนเมื่อมีการประชุมทุกครั้ง
(6) ประชาสัมพันธ์ มีหน้าที่ติดต่อแจ้งข่าวสาร แถลงเกี่ยวกับกิจกรรมของสมาคมต่อสมาชิกและบุคคลอื่นๆ โดยทั่วๆ ไป
(7) กรรมการบริหารนอกเหนือจากนายกสมาคม ให้มีหน้าที่อื่นๆ ตามที่นายกสมาคมมอบหมายด้วย
- กรรมการบริหารสมาคมพ้นจากตำแหน่งเมื่อ
(1) ตาย
(2) ลาออก
(3) คณะกรรมการบริหารจำนวนไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 มีมติให้ออก
(4) ขาดคุณสมบัติตาม ข้อ 5 ก.
(5) ถึงคราวออกตามวาระ
(6) สมาคมสิ้นสภาพลง
- การประชุมของคณะกรรมการบริหาร จะต้องมีกรรมการบริหารเข้าร่วมประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของคณะกรรมการ บริหารทั้งหมด จึงจะถือเป็นองค์ประชุม มติของที่ประชุมคณะกรรมการบริหารให้ถือคะแนนเสียงข้างมาก ถ้าคะแนนเสียงเท่ากันให้ ประธานที่ประชุมเป็นผู้ชี้ขาด
- คณะกรรมการบริหารอาจแต่งตั้งบุคคลใดเป็นกรรมการที่ปรึกษา เพื่อให้คำแนะนำต่างๆ เกี่ยวกับการบริหารกิจการของสมาคมแต่ไม่มีสิทธิในการออกเสียงลงมติใดๆ กรรมการที่ปรึกษามีวาระเท่าวาระของคณะกรรมการบริหารที่เป็นผู้แต่งตั้ง
- ก่อนครบวาระการดำรงตำแหน่งของคณะกรรมการบริหารไม่น้อยกว่า 90 วัน ให้คณะกรรมการบริหารพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหานายกสมาคมคนใหม่ และดำเนินการให้ได้คณะกรรมการบริหารชุดใหม่ตามข้อ 16 แต่หากครบวาระแล้วยังไม่สามารถแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ได้ทันให้คณะกรรมการบริหารชุดเดิมปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ได้รับการจดทะเบียนจากทางราชการ
เมื่อคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ได้รับการจดทะเบียนจากทางราชการแล้ว ให้คณะกรรมการบริหารชุดที่ครบวาระส่งมอบงานให้คณะกรรมการบริหารชุดใหม่ภายใน 15 วัน หากการส่งมอบงานไม่เสร็จสิ้นภายในกำหนดดังกล่าว ให้คณะกรรมการบริหารชุดเก่าหมดอำนาจหน้าที่ และให้คณะกรรมการบริหารชุดใหม่รับผิดชอบบริหารงานได้ทันที
หมวดที่ 7
การประชุมใหญ่
- ให้มีการประชุมใหญ่สามัญทุกปี ในเดือนมกราคม เพื่อพิจารณาระเบียบวาระต่างๆ ดังนี้
(1) เพื่อพิจารณารายงานกิจการของคณะกรรมการบริหารสมาคม ตามที่คณะกรรมการบริหารได้บริหารในปีที่ผ่านมา
(2) เพื่อพิจารณารายรับ-รายจ่าย และบัญชีงบดุลของสมาคมในปีที่ผ่านมา
(3) เพื่อเลือกตั้งผู้ตรวจสอบบัญชี
(4) เพื่อให้ความเห็นชอบนายกสมาคมคนใหม่ (กรณีที่มีการสรรหาใหม่)
(5) เพื่อปรึกษาและพิจารณาเรื่องอื่นๆ
- นอกจากการประชุมใหญ่สามัญแล้ว คณะกรรมการบริหารอาจเรียกประชุมใหญ่วิสามัญได้ หรือสมาชิกของสมาคมไม่น้อยกว่า 30 คน จะลงชื่อร้องขอให้มีการประชุมใหญ่วิสามัญก็ได้ และเมื่อนายกสมาคมได้รับคำขอให้เรียกประชุมจากสมาชิกแล้ว ต้องนัดประชุมภายในกำหนด 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับทราบเรื่อง
- ในการประชุมใหญ่ทุกครั้ง จะต้องแจ้งให้สมาชิกทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 7 วัน
- การประชุมใหญ่จะต้องมีสมาชิกมาประชุมไม่น้อยกว่า 30 คน จึงจะเป็นองค์ประชุม
- การเสนอญัตติใดๆ เว้นแต่ที่เสนอโดยคณะกรรมการบริหาร จะต้องมีสมาชิกรับรองไม่น้อยกว่า 10 คน
- สมาชิกสามัญมีสิทธิลงคะแนนเสียงได้คนละ 1 เสียง การออกเสียงลงคะแนนนั้นเป็นสิทธิเฉพาะตัวจะแต่งตั้งแทนไม่ได้
- การออกเสียงลงคะแนน จะใช้วิธีลับหรือเปิดเผยก็ได้ ตามแต่ที่ประชุมกำหนด
- มติของที่ประชุมใหญ่ให้ถือเสียงข้างมาก หากคะแนนเท่ากันให้ประธานในที่ประชุมเป็นผู้ชี้ขาด
หมวดที่ 8
การเงินและการบัญชี
- การเงินของสมาคม อยู่ในความรับผิดชอบของคณะกรรมการบริหาร
- ในการสั่งจ่ายเงินธนาคารนั้น ให้นายกสมาคมหรืออุปนายกลงลายมือชื่อร่วมกับเหรัญญิก โดยประทับตราเครื่องหมายของสมาคมในเอกสารเบิกจ่ายเป็นสำคัญ
- เหรัญญิกต้องจัดให้มีบัญชีการของ สมาคม พร้อมด้วยใบสำคัญและหลักฐาน ให้ถูกต้องตามหลักการบัญชี ในการรับเงินทุกประเภทต้องมีหลักฐานรับเงิน และในการจ่ายเงินทุกครั้งต้องมีใบสำคัญอันมีรายการจำนวนเงินถูกต้อง ซึ่งจะได้รับอนุมัติจากนายกสมาคมหรือผู้รับมอบหมายให้ทำการแทน
หลักฐานการรับและจ่าย ต้องเก็บรักษาไว้เพื่อการตรวจสอบ โดยความเรียบร้อยครบถ้วน เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี
- ให้นายกสมาคมมีอำนาจจ่ายเงินเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ ของสมาคมได้ไม่เกินครั้งละ 20,000 บาท (สองหมื่นบาทถ้วน) ถ้าเกินกว่านั้นต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริหารสมาคมเสียก่อน
- เงินของสมาคมเมื่อเกินกว่า 10,000 บาท ให้นำฝากในธนาคารพาณิชย์สาขาขอนแก่นในนามของสมาคม
- ให้ที่ประชุมใหญ่แต่งตั้งสมาชิกสามัญ หรือบุคคลภายนอกซึ่งไม่ใช่เป็นกรรมการบริหารของสมาคม และต้องเป็นบุคคลที่ได้รับอนุญาตให้เป็นผู้ตรวจสอบบัญชีจากทางราชการ เป็นผู้ตรวจสอบบัญชีของสมาคม
- ถ้าผู้ตรวจสอบบัญชี ซึ่งที่ประชุมใหญ่แต่งตั้งไว้ พ้นจากตำแหน่งด้วยเหตุใดๆ ก่อนทำการตรวจสอบบัญชีเสร็จ คณะกรรมการบริหารมีอำนาจให้บุคคลใดๆ ที่ไม่ใช่กรรมการบริหารของสมาคมทำการตรวจสอบบัญชีแทน
- ผู้ตรวจสอบบัญชี มีอำนาจตรวจสอบสรรพเอกสาร ทั้งของที่เกี่ยวกับบัญชีและการเงินของสมาคม และมีอำนาจสอบถามกรรมการตลอดถึงพนักงานของสมาคมในเรื่องดังกล่าว
หมวดที่ 9
สวัสดิการของสมาชิก
- สวัสดิการของสมาชิก ให้เป็นไปตามระเบียบที่คณะกรรมการบริหารกำหนด
หมวดที่ 10
การแก้ไขข้อบังคับของสมาคม
- การแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับในส่วน ที่มิใช่สาระสำคัญ และไม่เกี่ยวกับหลักการ ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริหาร โดยคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์เสียก่อน
หาก เป็นการแก้ไขเพิ่มในสาระสำคัญ หรือเกี่ยวกับหลักการของข้อบังคับนี้ ต้องได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมใหญ่ โดยคะแนนเสียง 2 ใน 3 ของผู้มาประชุม
หมวดที่ 11
การยกเลิกสมาคม
- การลงมติเลิกสมาคม จะกระทำได้โดยมติของที่ประชุมใหญ่เท่านั้น และต้องมีคะแนนเสียงจากสมาชิกที่เข้าร่วมประชุมเห็นชอบด้วยไม่น้อยกว่า 2 ใน 3
- ในกรณีเลิกสมาคม ไม่ว่าด้วยเหตุใดๆ ก็ตาม ทรัพย์สินของสมาคมที่เหลืออยู่หลังจากที่ได้มีการชำระบัญชีเป็นที่เรียบร้อย แล้ว ให้โอนให้แก่สมาชิกชาวปักษ์ใต้ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งตั้งอยู่ ณ อาคาร เลขที่ 9/9 ถนนวงแหวน แขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร 10170
หมวดที่ 12
บทเฉพาะกาล
- นับแต่วันที่ข้อบังคับฉบับแก้ไขใหม่นี้ได้รับการจดทะเบียนแก้ไขเปลี่ยนแปลงจากทางราชการแล้วให้ยกเลิกข้อบังคับของสมาคมที่ประกาศใช้บังคับอยู่ก่อนหน้านี้ทุกฉบับ และให้ใช้ข้อบังคับนี้แทน
- ให้คณะกรรมการบริหารชุดที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในวันที่ได้รับการจดทะเบียนข้อบังคับใหม่ เป็นคณะกรรมการบริหารตามข้อบังคับนี้ต่อไป จนกว่าจะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ที่นายกสมาคมได้รับการสรรหาตามข้อบังคับนี้